“อื้อ.. ไม่นะ ไม่กลับ”
...
“บอกว่าไม่กลับไง อึก.. อ..อย่ามายุ่งนะ!!”
“เฮ้ย!!”
ร่างสูงสบถเสียงดังอย่างตกใจที่จู่
ๆคนที่ประคองอยู่ก็อาละวาดไม่ยอมกลับขึ้นมาอีกครั้ง
โดยการทิ้งตัวลงที่พื้นเพื่อให้หลุดจากการเกาะกุม ชีวอนออกแรงดึงคนเมากลับมาประคองอีกครั้งอย่างอดทน
มือใหญ่รวบมือคนเมาที่ป่ายไปมาอย่างไม่มีสติ และไม่สนใจเสียงงึมงำหงุดหงิดที่ฟังไม่รู้เรื่องของคยูฮยอน
แต่ถึงจะเมาแค่ไหน
คยูฮยอนก็แสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ได้ไม่อยากกลับ
แค่ไม่อยากกลับกับเขา
ก็แน่ล่ะ.. ใครที่ไหนจะอยากอยู่กับแฟนเก่าที่เพิ่งเลิกรากันไปไม่กี่เดือนให้อึดอัดใจกัน
“ปล่อยยยย!! จะไปกับพวกฮยองง!!”
“เงียบแล้วอยู่นิ่ง ๆน่า
ตัวไม่ได้เบาเหมือนแต่ก่อนนะ”
ชีวอนกล่าวเสียงเข้มด้วยความอดทนปนรำคาญ
แต่ยิ่งทำให้ร่างเล็กที่หงุดหงิดไม่แพ้กันต่อต้านเขามากยิ่งขึ้น คยูฮยอนโวยวายตั้งแต่รู้ว่าคนมาส่งเป็นเขา
ไม่ใช่พวกเมเนเจอร์ แล้วทำตัวน่าตีมากขึ้นเรื่อย ๆจนความอดทนของเขาแทบจะหมดลง
“แค่เดินดี ๆยังไม่ไหว
จะไปต่อกับพวกนั้นได้ยังไง”
“ก็ปล่อยยยย รำคาญ!!”
!!!
“ได้ยินไหมว่ารำคาญ!!”
ร่างสูงชะงักกึกกับคำที่เขาเกลียดที่สุด
และคยูฮยอนก็จงใจพูดมันออกมา แต่ไม่มีประโยชน์ที่จะตะโกนใส่กันตอนนี้
สองมือใหญ่บีบแขนที่พาดกับคอ และเอวที่ประคองอยู่ไว้แน่นด้วยความโมโห แล้วเดินกึ่งลากคยูฮยอนต่อเพื่อเข้าไปในตัวตึก
ตอนขับรถกลับมาเขาเห็นซาแซงหลายคนตามกลับมา
เพราะเมเนเจอร์ต้องไปกับพวกซูจูที่จะไปต่อ พวกเขาจึงกลับมาเพียงลำพัง เขาจึงตัดสินใจพาคยูฮยอนกลับมาที่คอนโดแทนที่จะไปหอพัก
“นายน่ะ.. ”
ชีวอนหลับตาเพื่อสงบสติก่อนจะกลืนคำที่จะพูดสวนจริง ๆเก็บไว้ “...เงียบซะ”
แต่ก็อดโกรธไม่ได้จริง ๆ
“ฉันมาส่งก็ดีแค่ไหนแล้ว”
....
ชีวอนถอนหายใจอย่างโล่งอกที่คยูฮยอนยอมเงียบลงไปในที่สุด
ร่างสูงดึงคยูฮยอนเข้าไปในห้อง และทิ้งร่างเล็กลงที่เตียงของเขาเอง
ก่อนจะยืดตัวด้วยความเมื่อยล้า ร่างเล็กเอาแต่ขัดขืนตั้งแต่รู้ว่ารถที่นั่งไม่ใช่รถตู้ของบริษัท
เขาทั้งต้องขับรถหนีซาแซงและยังต้องขับให้น่ากลัว คยูฮยอนจะได้อยู่นิ่ง ๆ ..ดีที่ไม่รถคว่ำตายไปด้วยกัน
สายตาคมมองกวาดไปรอบห้องคอนโดที่ไม่ได้มาสักพักหนึ่งแล้วและถอนหายใจยาว
ก่อนจะหันกลับมามองร่างเล็กที่นอนหมดสภาพอีกครั้ง
และรู้สึกได้ทันทีว่าคยูฮยอนจะโมโหมากขนาดไหนเมื่อตื่นมาพบว่าตัวเองอยู่ที่นี่
..คอนโดที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นบ้านของเรา
ร่างสูงถอนหายใจยาวอีกครั้ง
ความจริงเขากะจะกลับไปนอนที่บ้าน แต่มาถึงขั้นนี้แล้วคงต้องนอนด้วยกัน ชีวอนปลดเข็มขัดและดึงกางเกงของคยูฮยอนที่เปรอะครีมเค้กออกมาเพื่อเอาออกไปซัก
ก่อนจะก้าวขาไปเปิดประตูและออกจากห้องไป
…
มันตั้งแต่เมื่อไหร่นะ
ที่คนที่เคยพากลับบ้านทุกครั้งที่ทำได้ กลับกลายเป็นแค่คนที่ดีแค่ไหนแล้วที่ยอมมาส่งเขา
ร่างเล็กลืมตาขึ้นช้า
ๆเมื่อสิ้นเสียงประตู แล้วกระพริบตาถี่ ๆเมื่อรู้สึกเหมือนโลกหมุนไปมา
จึงพลิกตัวนอนคว่ำเพื่อลดอาการมึนเมา
แค่จะลุกขึ้นมองว่าที่นี่คือที่ไหนยังไม่ได้เลย
ไม่รู้ว่าไม่ได้เมามากขนาดนี้มานานแค่ไหนแล้ว
เหตุผลที่มีสภาพแบบนี้น่ะหรอ..
“นี่ ดูสิ
ไวน์ขวดนี้อึนฮยอกกูเอามาฝากจากอิตาลีเชียวนะ เหล้าดี ๆตรงนั้นกอนฮีก็เอามาให้”
“หื้อ..
แล้วไงอ่ะพี่” คยูฮยอนตีมึนใส่พี่ชายเจ้าของวันเกิดหน้าตาย
“อย่าตีสิ!” แล้วเคลื่อนตัวหลบมือที่จะฟาดลงมาที่หัว คิมฮีชอลคว้าคอของคยูฮยอนมากอดไว้แน่นแล้วกระซิบที่ข้างหูด้วยเสียงเจ้าเล่ห์
“รยองกูก็หิ้วของขวัญมาให้จากนิวยอร์คเชียวนะ”
“ล..แล้ว..ไง”
ร่างเล็กพยายามบิดตัวออกแต่ไม่เป็นผล ฮีชอลรัดคอเขาแน่นจนหายใจแทบไม่ออก “บอกแล้วไงว่าจะให้อาทิตย์หน้า!”
“บริษัทกาก
ๆนี่ยังให้เค้กฉันมาเลยนะ ถึงจะหน้าเค้กซ้ำเหมือนของจองซูก็เถอะ”
“...”
“ฉันแค่จะบอกว่าดาราแห่งจักรวาลอย่างฉันได้ของเยอะมากแล้ว”
คิมฮีชอลหนีบแขนให้รัดคอร่างเล็กแน่นเข้าอีก
“เพราะงั้นพี่คนนี้ไม่ต้องการของขวัญที่เป็นสิ่งของนะ คิมคยู
~♡”
คยูฮยอนขนลุกซู่เมื่อได้ยินฮีนิมดัดเสียงให้เล็กเหมือนผู้หญิงในท้ายประโยค
และทำเหมือนเขาเป็นน้องสาวทั้งสี่ในรายการของตัวเอง “แล้วพี่จะเอาอะไร”
ร่างเล็กรู้สึกได้ทันทีว่าคิมฮีชอลยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์เมื่อได้ยินที่เขาบอก
ก่อนที่เจ้าตัวจะกระซิบที่ข้างหูด้วยน้ำเสียงที่น่าขนลุกไม่แพ้เมื่อกี้
“กลับไปคบกับไอ้ชีวอนซะ”
เฮ่อะ
คยูฮยอนหายใจฮึดฮัดอย่างขัดใจ
แต่ก่อนจะทันได้ตอบโต้อะไรกลับไป เสียงทุ้มก็ดังก้องขึ้นด้านหลัง
“พี่ทำอะไรอยู่”
ตายยากจริง
ๆ
“พี่จะมอมคยูฮยอนหรือยังไง”
“ย่าห์..
นายนี่” ฮีชอลแสร้งทำเสียงหงุดหงิดทั้งที่ปิดบังแววตาสนุกสมใจไม่มิด ก่อนจะหันไปหาชีวอนที่คงจะยืนมองอยู่นาน
จนทนไม่ได้จนต้องเดินเข้ามา และเพราะเขาหนีบคอคยูฮยอนเอาไว้อยู่
เลยทำให้คยูฮยอนต้องหันไปประจันหน้ากับร่างสูงด้วย “ห่วงขนาดนี้จะบอกเลิกมันทำไม”
ฮีชอลเอ่ยอย่างกำกวม
ทั้งสื่อถึงเรื่องตอนนี้ และอุบัติเหตุที่ญี่ปุ่นที่อีทึกฮยองชนเขา
ทำให้ไมค์กระแทกเข้าที่ปากอย่างแรงจนเลือดซิบ ถึงชีวอนฮยองจะไม่ได้มาดูเป็นคนแรก
แต่ก็คอยเข้ามาถามแล้วผละไปอย่างรวดเร็ว
ราวกับการอยู่ใกล้เขานานมันจะทำให้พระเจ้าลงโทษ
ร่างเล็กหลบตาลงต่ำอย่างอึดอัด
เมื่อสายตาคมกล้าสีดำขลับดุจรัตติกาลมองมาด้วยความไม่พอใจ
คยูฮยอนรู้สึกว่าใบหน้าชาและร้อนผ่าวและรู้ตัวว่าไม่ควรมายืนอยู่ตรงนี้
ยิ่งเลิกกันนานเท่าไหร่ ความอึดอัดที่ควรหายไปกลับทวีมากขึ้น
เขาเคยคิดว่าคงเป็นเพราะชีวอนยังทำตัวสนิทสนมบนเวทีกับเขาเหมือนแต่ก่อนเพื่อเอาใจแฟน
ๆ และพอลงจากเวที ต่างฝ่ายต่างแยกย้ายไปตามทางของตัวเอง แต่คอนเสิร์ตของค่ายที่ผ่านมา
ชีวอนแทบไม่สนใจใยดีเขาเลย.. มันจึงทำให้เขารู้ว่าที่เขายังอึดอัด
คงเป็นเพราะเขาอยากกลับไปยืนข้างชีวอนในจุดเดิม แต่ชีวอนไม่ต้องการอย่างนั้นแล้ว
“เวลาคยูฮยอนเมาน่ารักจะตาย ตัวก็แดง ปากก็แดง”
ฮีชอลยียวน ดวงตาเจ้าเล่ห์หรี่ลงและสำรวจปฏิกิริยาของชีวอนอย่างเบิกบานใจ
“ชอบทำตัวตลกอีกตังหาก สนุกจะตาย”
“ข้าวก็ยังไม่ได้กิน
ซ้อมก็เพิ่งเสร็จ พี่กะจะให้น้องตัวเองเมาในครึ่งชั่วโมงเลยรึไง”
“แล้วพี่มายุ่งอะไรด้วย”
ร่างเล็กจำได้ว่าตัวเองสวนกลับไปด้วยน้ำเสียงเย็นชา เขาได้ยินฮีนิมทำเสียง ว้าว..
แดบักคยู! เบา ๆที่ข้างหู แต่เขาไม่สนใจและมองไปยังอดีตคนรักอย่างไม่พอใจ
“ต่อให้คอแข็งมาจากไหน
นายก็จะเมาเร็วแล้วก็ปวดหัวมากกว่าเดิมสองเท่า” เสียงทุ้มเอ่ยกลับมา
ด้วยท่าทีเหมือนตัวเองเป็นเทวดาที่คอยเอาใจใส่ดูแลคนอื่น
“แล้วยังไง”
เทวดา.. ที่เชื่อฟังพระเจ้าอย่างหมดหัวใจ
และเพิ่งทิ้งเขาเพื่อกลับไปยืนท่ามกลางนางฟ้า
เพียงเพราะสาธุคุณที่นับถือบอกว่าเรื่องของเรามันผิด..
“ฉันเคยบอกไปแล้วไงว่าให้นายดูแลตัวเอง
เพราะฉันน่ะ..”
ฉันจะไม่ดูแลนายอีกแล้ว..
คำนี้ที่เคยพูด
ในวันที่บอกลา
ร่างเล็กมองชีวอนด้วยสายตาเรียบนิ่งทั้งที่ในใจไม่ใช่
พายุอารมณ์ก่อตัวและหมุนวนปั่นป่วนในร่างกาย
ความน้อยใจที่ถูกซ่อนไว้ภายใต้ใบหน้าเย็นชาตลอดมากำลังดิ้นรนออกจากที่กักขัง บรรยากาศระหว่างกันเงียบงันและอึดอัดจนฮีชอลเลือกที่จะอยู่เงียบเพื่อรอให้ระเบิดเวลาทำงาน
“พี่น่ะ..”
คยูฮยอนเอ่ยอย่างจริงจังด้วยน้ำเสียงอันตรายและใบหน้าที่หาเรื่อง “อย่ามายุ่ง”
ร่างเล็กเบียดตัวออกจากพันธนาการ
ดวงตาที่เคยอ่อนโยนจ้องชีวอนอย่างแข็งกร้าว
มือเล็กคว้าเอาขวดไวน์ของพี่มาโดยไม่ขอและเดินผ่านชีวอนออกไปราวกับไม่แคร์
ทั้งที่ในใจ
ต้องการให้ชีวอนแย่งไวน์กลับไป
ทั้งที่ใจ
ต้องการให้ชีวอนดึงแขนเอาไว้
ทั้งที่..
ต้องการให้ชีวอนกอดไว้ไม่ให้เขาไปไหน
แต่ก็ไม่มีอะไร
หรือแม้แต่ใครที่รั้ง ทุกคนกำลังสนุกกับตัวเองและมีความสุขในวันเกิดของพี่ใหญ่ คยูฮยอนทิ้งตัวนั่งลงตรงโต๊ะที่ถูกใช้เป็นที่วางของขวัญ
สายตาเย็นชามองไปยังขวดเหล้าชั้นดีที่เพื่อนของฮีชอลเอามาให้ สลับกับขวดไวน์ในมือ คงมีแค่พวกมัน.. ที่จะช่วยเขาได้ในคืนนี้
ถ้าพรุ่งนี้จะโดนฮีนิมด่า..
ก็ให้เป็นเรื่องของวันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน
แกร๊ก..
ชีวอนเดินกลับเข้ามาพร้อมอ่างน้ำและผ้าขนหนูให้มือ
ก่อนจะเห็นว่าคยูฮยอนพลิกตัวนอนคว่ำไปแล้ว ร่างสูงวางลงข้างเตียงเพื่อพลิกคยูฮยอนกลับมา
แต่ร่างเล็กก็ขืนตัวไว้และใช้มือจิกผ้าปูเตียงไว้แน่น ร่างสูงจึงนั่งลงบนเตียงและเอ่ยเสียงเข้ม
“ฉันรู้นะ ว่านายไม่ได้หลับ”
“...”
“ถ้าไม่หันกลับมา ฉันจะกลับบ้านแล้วนะ”
...
“ก็ก่อนหน้านี้น่ะ..”
ร่างเล็กเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ปิดไม่มิดว่าน้อยใจ
“...”
“ไม่เห็นจะมาสนใจเลย”
“ฉันเพิ่งรับงานโปรดิวเซอร์มาลองทำ
นายก็รู้นี่”
ร่างสูงพูดปดทั้งที่รู้แก่ใจว่าต้องถูกจับได้
เขาได้ยินคยูฮยอนหัวเราะอย่างประชดประชัน แต่ก่อนที่จะได้แก้ตัว คยูฮยอนลุกขึ้นและใช้สองมือดันร่างสูงให้ถอยติดหัวเตียง
ร่างเล็กเคลื่อนที่อย่างปราดเปรียว
สองขาเรียวคร่อมทับขาซ้ายของชีวอนโดยไม่แคร์ว่าจะมีเพียงกางเกงชั้นในขวางกั้น
สองมือประคองหน้าชีวอนไม่ให้หนีและจรดหน้าผากเข้าไปใกล้จนใบหน้าห่างกันไม่กี่เซนติเมตร
ถ้าเขาไม่เมาจนเกินไป เขาว่าเขาเห็นความวูบไหวในดวงตาอันแสนมีเสน่ห์ของชีวอน
“พูดสิ”
“...”
“มองตาผม แล้วก็พูด”
“...”
“พูดความจริงออกมา”
ร่างเล็กหรี่ตามองอย่างจับผิด
เรื่องคอนเสิร์ตที่ญี่ปุ่นมันไม่ใช่แค่ไม่สนใจ แต่มันเป็นการเมินเฉย
ชีวอนฮยองเดินไปทุกที่ที่เขาไม่ไป เดินหนีทุกครั้งที่เขาอยู่ใกล้ และแน่นอนคนอย่างชีวอนโกหกไม่เก่ง
และเอาแต่เงียบเหมือนเคยที่ถูกจับได้ คยูฮยอนเม้มปากอย่างขัดใจและผละออก ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนและหยิบหมอนข้างตัวมาปิดตาหนีแสงไฟและหน้าชีวอน
เสียงร่างเล็กทิ้งตัวนอนทำให้ชีวอนได้สติ
ก่อนจะสะบัดหัวแรง ๆเพื่อไล่ความมึนงง กลายเป็นเขาที่มึนเมาเสียเอง
ก่อนจะคว้าผ้าขนหนูชุบน้ำแล้วจัดการจะเช็ดตัวให้คยูฮยอนให้เร็วที่สุด เพื่อจะได้แยกย้ายกันไปนอนสักที
คยูฮยอนสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อน้ำเย็นจัดถูกตัว
แต่ก็ไม่ได้ถอยหนีหรือต่อต้าน
ร่างสูงเช็ดอย่างระมัดระวังไม่ให้คยูฮยอนแสบผิวท่ามกลางบรรยากาศที่อึดอัดระหว่างกัน
ก่อนที่ชีวอนจะเห็นรอยแผลที่ยังอยู่บนริมฝีปากและไล้ปลายนิ้วตามรอยแผลอย่างเบามือราวกับจะปลอบโยน
“ก็รู้อยู่ว่าพี่เขาจะแกล้งให้โกรธจะได้กินจนเมา
แล้วจะไปวิ่งตามเกมเขาทำไม” ชีวอนตัดสินใจทำลายความเงียบ
“อืม...
วิธีมอมเหล้าฉบับคิมฮีชอลสินะ”
ร่างสูงเอ่ยเสียงเรื่อย ๆเหมือนชวนคุย
เพื่อทำลายบรรยากาศที่เงียบงัน พลางดึงหมอนที่ปิดตาคยูฮยอนออกเพื่อสบตากัน
ร่างเล็กไม่พูดอะไรมากมีแต่เพียงสายตาทำให้ชีวอนชะงัก.. นัยน์ตาของคยูฮยอนยังสะท้อนภาพเขาอยู่เสมอ
ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาร่างเล็กจะปกปิดมันไว้ด้วยความเย็นชา
แต่เขาก็รู้อยู่แก่ใจว่าคยูฮยอนคิดถึงวันเวลาเก่า ๆมากเพียงใด
และเขาเอง.. ก็ไม่ต่างกัน
“เรื่องที่พี่กำลังคิด..”
...
“คือถ้าไม่มีนายเลยในชีวิต
..พี่จะอยู่ได้มั้ย”
“ก็เห็นอยู่ได้นี่”
คยูฮยอนตอบเสียงเรียบราวกับไม่ได้ประชดประชันใคร
ทั้งที่สายตากำลังตัดพ้ออย่างรุนแรง แต่สายตานั้นกลับดึงดูดชีวอนให้ก้มเข้าไปหาโดยไม่รู้ตัว
เหมือนดาวเคราะห์ที่ถูกกลืนเข้าไปในหลุมดำ
ชีวอนก็หลบสายตาร่างเล็ก
ลมหายใจร้อน ๆที่มีกลิ่นแอลกอฮอล์และความชิดใกล้ที่กำลังทำให้เขารู้สึกปั่นป่วน
การที่เขาเคยชินกับการปลอบใจคยูฮยอนมาตลอดมันกำลังทำให้เขาลำบากในการควบคุมตัว
เขารู้สึกว่าต้องเปลี่ยนเรื่องคุยและหาทางออกจากสถานการณ์ที่อันตรายต่อใจนี้
แต่สมองกลับว่างเปล่าเหมือนไม่ถูกสั่งการ
ร่างสูงยังค้างผ้าชุบน้ำไว้ที่แผ่นอกบอบบางจนน้ำซึมกระจายทั่วเสื้อของคยูฮยอนจนผ้าแนบลู่ไปกับตัว
และเขายังคงใช้ปลายนิ้วไล้ตามรอยแผลบนริมฝีปากสีสดที่แดงสดกว่าทุกวัน
ริมฝีปากที่ไม่มีวันไหนไม่คิดถึง
คยูฮยอนเอื้อมมือเล็กที่ร้อนผ่าวมารั้งท้ายทอยแกร่งให้ลงมาใกล้อีก
และร่างสูงเองก็โอนอ่อนตามอย่างว่าง่ายราวกับถูกมนต์สะกด เป็นครั้งแรกที่ได้ใกล้ถ้านับจากวันที่เลิกรา
ใกล้จนรับรู้ถึงลมหายใจของกัน ใกล้จนเผลอจรดริมฝีปากอย่างแผ่วเบา
ริมฝีปากหยักดูดเม้มและแทรกลิ้นเข้าไปในโพรงปากหวานอย่างคุ้นเคย
ลิ้นร้อนกวาดกระหวัดอย่างลืมตัวจนคยูฮยอนสั่นไปทั้งร่าง
ก่อนที่มือใหญ่จะช้อนแผ่นหลังเขาขึ้นและสอดเข้ามาสัมผัสแผ่นหลังขาวเนียนจนรู้สึกวาบหวามยามที่ปลายนิ้วเรียวยาวลูบไล้วนอย่างถือวิสาสะ
คยูฮยอนตอบสนองอย่างเชื่องช้าเงอะงะที่เป็นผลมาจากความมึนเมา
ร่างเล็กพยายามเบือนหน้าหนีเพื่อออกมาตั้งหลักหายใจ
แต่มือใหญ่อีกข้างจับใบหน้าเล็กไว้มั่นและตักตวงความสุขเข้าตัวอยู่ฝ่ายเดียวจนคยูฮยอนรู้สึกรำคาญจนโกรธ..
ทิ้งกันไปเอง
แล้ววันนี้กลับมาทำเหมือนคิดถึงจะเป็นจะตาย
ปึก!
ร่างเล็กพลิกตัวกลับโดยที่ชีวอนไม่ทันตั้งตัว
แต่ถึงอย่างนั้นเสียงแผ่นหลังกว้างกระแทกกับหัวเตียงและความเจ็บปวดไม่ได้ทำให้ชีวอนชะงักไป
มือที่ร้อนผ่าวเอื้อมมาจัดการกระดุมเสื้อที่กั้นผิวเนียนนุ่มของคยูฮยอนไว้และริมฝีปากหยักยังดูดกลืนอย่างหิวกระหายแต่ไม่ได้รุกรานได้มากเท่าเมื่อสักครู่
คยูฮยอนลอบยิ้มอย่างพอใจที่ได้ขึ้นมาเป็นฝ่ายคุมเกม
ร่างเล็กวางมือค้ำไว้ที่อกแกร่งและจิกลงเบา ๆแค่พอให้คนอยู่ข้างล่างจะดิ้นตาย ก่อนที่จะดันตัวออกในขณะที่ริมฝีปากของคยูฮยอนดูดดึงเอาริมฝีปากล่างของชีวอนมาและ..
กึก
!!!
ฟันที่เรียงตัวสวยขบเข้าที่กลางริมฝีปากล่างอย่างแรงจนเจ้าของปากสะดุ้งและผลักคยูฮยอนออก
คยูฮยอนหรี่ตามองร่างสูงที่เจ็บปวดทั้งที่รู้สึกพอใจและรู้สึกได้ว่าชีวอนกำลังโกรธจากสายตาขุ่นเคืองที่มองกลับมา
“โทษทีนะ คงเมาไปหน่อย”
ร่างเล็กเอ่ยแก้ตัวพร้อมรอยยิ้มยั่วขณะที่มองอย่างพึงใจ
ท่ามกลางความมึนเมาแบบนี้เลือดสีสดไหลซิบออกมาจากริมฝีปากหยัก
ไหลลงปลายคางที่เต็มไปด้วยไรหนวดยิ่งทำให้ชีวอนที่กำลังโกรธเซ็กซี่เป็นบ้า..
ชีวอนมองร่างเล็กที่นั่งคร่อมอยู่บนตักด้วยความหงุดหงิดและพยายามเบือนหน้าหนี
แต่อย่างที่ว่าไป ค่ำคืนนี้เหมือนไม่ว่าร่างกายส่วนไหนก็ไม่ได้ดังใจชีวอน
สายตาคมยังมองอดีตคนรักตรงหน้าที่ยั่วยวนเขาเสียเหลือเกิน
เพียงไม่กี่วินาทีก่อนมือเขาดึงกระดุมเม็ดบนของคยูฮยอนออกจนหมด
เผยให้เห็นผิวขาวเนียนที่แดงเรื่อจากแอลกอฮอล์ในเลือด
เงาจากไฟหัวเตียงที่เปิดไว้ตกกระทบและส่องสว่างให้เห็นเงาของร่างกายภายใน
สองมือเล็กวางอยู่บนขาเรียว รั้งให้ชายเสื้อเลิกขึ้นอย่างค้าง ๆคา
ๆเรียกร้องให้เขาเข้าไปสัมผัส
และมันเป็นอะไรที่เขารู้ว่าคยูฮยอนตั้งใจทำ
คยูฮยอนก้มลงไปและใช้สันจมูกได้รูปถูที่สันกรามเบา
ๆอย่างยั่วยวนก่อนที่จะใช้มือเล็กข้างนึงปลดกระดุมเสื้อของร่างสูงออกและสอดเข้าไปวางทาบกับผิวกายสีแทนภายใน
ลิ้นร้อนโลมเลียใบหูร่างสูงอย่างซุกซนเพื่อปลุกอารมณ์ในขณะที่ร่างสูงเม้มปากแน่นและหลับตาเพื่อสงบสติอารมณ์ที่กระเจิดกระเจิง
“พระ.. เจ้า.. ”
คยูฮยอนผละขึ้นมาเพื่อปลดกระดุมที่เหลือโดยไม่ใส่ใจเสียงครางอย่างรู้สึกผิดของชีวอนและมองผู้ชายของเขาอย่างพอใจ..
ร่างสูงยกมือขึ้นมาทำสัญลักษณ์ไม้กางเขนที่หน้าอกเพื่อยึดเหนี่ยวจิตใจแต่ร่างเล็กคว้ามือมาไว้ก่อน
..และวางมือที่ร้อนผ่าวทั้งสองข้างลงที่ต้นขาขาวเนียนของตัวเอง
ชีวอนลืมตามองมองร่างเล็กอย่างตกใจกับปฏิกิริยาที่ไม่เคยได้เห็น
ทั้งคู่สบตากันด้วยความเงียบงันในขณะที่มือเล็กกุมรอบข้อมือใหญ่แล้วควบคุมให้เลื่อนขึ้น
สอดเข้าไปสัมผัสร่างกายเนียนนุ่มใต้ร่มผ้าอย่างเต็มใจ คยูฮยอนก้มหน้าลงไปใกล้ชีวอนและกระซิบ
ปลายจมูกโด่งคลอเคลียไปมาที่ปลายจมูกของชีวอน
“ท่านไม่อยู่ที่นี่หรอกนะ ชเว
ชีวอน”
คยูฮยอนจูบซับเลือดรสคาวที่ปลายคางและไล่จูบไปตามสันกรามแล้วกลับมาที่ริมฝีปากหยัก
ก่อนจะวางมือที่อกแกร่งและเลื่อนขึ้นคล้องรอบลำคอร่างสูงพลางจรดริมฝีปากลงจูบอีกครั้ง
เพียงเสี้ยวสัมผัส ทุกเงื่อนไขที่มีก็ถูกลืม มือใหญ่บีบเฟ้นสะโพกกลมหนักจนร่างเล็กเจ็บและรั้งเอวบางจนคยูฮยอนเข้ามาชนกระแทกเข้ากับตัว
ตุบ!
ชีวอนเหวี่ยงร่างคยูฮยอนลงกับเตียงและคร่อมไว้
เสื้อเชิ๊ตเนื้อดีถูกกระตุกออกไปให้เหลือเพียงท่อนบนที่เปลือยเปล่าอวดมัดกล้ามเนื้อที่เจ้าตัวแสนจะภูมิใจ
ก่อนที่อีกฝ่ายจะได้ทันตั้งตัวก็ถูกร่างสูงบดขยี้ริมฝีปากอีกครั้งจนแทบจะห้อเลือดและชีวอนไม่ปล่อยให้คยูฮยอนได้เริ่มอะไร
เพียงสองวินาทีถัดมากางเกงชั้นในตัวเล็กก็ถูกโยนทิ้งลงจากเตียงอย่างไม่ใยดีโดยที่ชีวอนไม่ได้ผละริมฝีปากออกมาด้วยซ้ำ
ก่อนที่ชีวอนจะเอื้อมมือไปยังโต๊ะข้างเตียงเพื่อควานหา ‘ตัวช่วย’
ในลิ้นชักที่เคยใช้กับคยูฮยอน
“อ้ะ..!! อื้อออออ”
นัยน์ตากลมโตเบิกกว้างเมื่อชีวอนใช้ปลายนิ้วบี้ที่ยอดอกแรง
ๆ
ริมฝีปากร้อนผละออกมาและไซ้ที่ลำคอขาวผ่องพลางดูดเม้มเพื่อทิ้งรอยโดยไม่คิดขออนุญาต
มือเล็กพยายามดันไหล่กว้างให้ลุกออกไปแต่ไม่เป็นผล ได้แต่เชิดหน้าและปล่อยเสียงตามแรงอารมณ์ที่มีก่อนที่หางตาจะเหลือบไปเห็นขวดเจลหล่อลื่นกับซองพลาสติกจัตุรัสสีสดใจสองสามซองที่ถูกชีวอนโยนออกมาจากลิ้นชักพร้อมกัน
ร่างสูงจูบลงที่แผ่นอกของคยูฮยอนและไล่ต่ำลงมาเรื่อย
ๆ และแทรกตัวแยกปลายขาเรียวออกจากกัน
หน้าท้องแบนราบหดเกร็งเมื่อริมฝีปากหยักดูดเม้มเบา ๆเมื่อเคลื่อนที่ผ่าน
คยูฮยอนหลับตาแน่นเมื่อคิดว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้จึงไม่ทันมองว่าขวดที่อยู่ข้างตัวเมื่อครู่ถูกหยิบไป
“อาาา!!! ..พ พี่..
อ้ะะะ! อึกกก!”
คยูฮยอนบิดตัวเร้าเมื่อริมฝีปากร้อนครอบครองแก่นกายของเขาและชีวอนขยับตัวขึ้นลงเป็นจังหวะจนร่างเล็กสูดปาก
ก่อนจะตัวสั่นระริกเมื่อปลายนิ้วเรียวยาวถูเจลเย็น
ๆที่ช่องแคบสีสดของตัวเองก่อนจะแทรกนิ้วเข้าไปจนสุดโดยไม่บอกล่าวทีเดียวถึงสองนิ้ว
เนื้อเยื่อในปากที่ร้อนผ่าวของร่างสูงบีบรัดและดูดดึงคยูฮยอนอย่างหนักหน่วงจนร่างเล็กแอ่นตัวจนสะโพกลอย
สลับกับใช้ปลายนิ้วกดเข้าที่จุดเร่งอารมณ์ภายในจนคยูฮยอนแทบคลั่ง
นิ้วเรียวยาวทั้งสองสอดเข้าออกและจงใจหมุนวนภายในผนังอ่อนนุ่มก่อนจะแยกปลายนิ้วเปิดช่องว่างและบีบเจลเติมเข้าไปด้านใน
“ฮื้ออออ อึก!
อ.. อย่า แกล้ง! อื้อๆๆๆๆๆๆๆ!!!”
ร่างเล็กครางอย่างทรมานเมื่อร่างสูงดันสะโพกนิ่มขึ้นและใช้เอาหมอนใบเล็กมารองไว้ให้สูงก่อนจะผละออกมา
นิ้วเรียวยาวจงใจกระแทกเข้าไปแรงสลับช้าในขณะที่เจ้าตัวมองใบหน้าที่ทรมานของคยูฮยอนอย่างพอใจซะเหลือเกิน
ร่างเล็กบิดกายเร้าด้วยความรู้สึกที่ถูกทำให้ปะทุสูงขึ้นเรื่อย ๆ
ชีวอนก้มลงดูดกลืนความหวานจากยอดอกสีชมพูที่ชูชัน
มือเล็กที่สั่นระริกสอดเข้าไปขยุ้มกลุ่มเส้นผมของร่างสูงก่อนจะเลื่อนลงไปจิกแผ่นหลังกว้างด้วยความเสียวซ่านเมื่อชีวอนเร่งจังหวะนิ้วและใช้อีกมือมารูดรั้งส่วนอ่อนไหวของเขาเร็ว
ๆอย่างไม่ปราณี ปลายเท้าเรียวจิกผ้าปูที่นอนแทบขาดเมื่อเห็นปลายทางอยู่ไม่ไกล
แต่แล้ว—
ชีวอนงอนิ้วที่อยู่ภายในและดึงออกอย่างแรงจนตัวคยูฮยอนกระตุก
ก่อนที่ร่างสูงจะหยุดทุกการกระทำพร้อมกันทิ้งให้คยูฮยอนนอนหอบหายใจและมองมาอย่างไม่เข้าใจ
ชีวอนยิ้มมุมปากด้วยแววตาของคนชนะก่อนที่เสียงทุ้มที่แสนจะเจ้าเล่ห์จะเอ่ยออกมา
“อย่าเพิ่งเสร็จสิ
พี่ยังไม่ได้เริ่มเลย”
ชีวอนมองร่างเล็กที่ตัวแดงจัดเพราะแรงอารมณ์อย่างพอใจก่อนจะเอื้อมมือมาปลดเข็มขัดและนำกางเกงยีนส์ที่เกะกะนี่ออกไป
เขาคงแกล้งคยูฮยอนต่อได้ไม่นานนักเพราะร่างสูงเองก็ต้องการจนแก่นกายขยายจนปวดไปหมด
..ใจจริงเขาเองก็ไม่ได้ต้องการจะแกล้งหรืออะไร
แต่ก่อนจะถึง ‘ของจริง’ ก็ต้องลงโทษที่ทำตัวน่าตีสักหน่อย
มือเล็กหยิบซองถุงยางอนามัยขึ้นมาอย่างรู้งานก่อนจะคลานไปหาชีวอนและใช้มือสั่น
ๆแกะซองพลาสติกแล้วหยิบของภายในออกมา ถุงยางที่บางจนใสถูกวางลงที่ปลายหยักที่ชูชันของร่างสูงก่อนที่คยูฮยอนจะใช้ริมสีปากสีสดจรดและครอบถุงยางลงไปที่ท่อนเนื้อร้อนตรงหน้า
ร่างสูงครางในลำคออย่างพอใจและหลับตาเคลิ้มอย่างสุขสม
ก่อนจะใช้สองมือจับศีรษะร่างเล็กเพื่อควบคุมจังหวะเอง
คยูฮยอนรู้ดีเสมอว่าต้องทำยังไงให้เขาพอใจ ..หรือแม้แต่จะทำยังไงให้เขาโกรธ
“อึก!”
ร่างเล็กอึกอักในลำคอเมื่อปลายแก่นกายกระแทกสวนเข้ามาลึกเกินไปแต่ก็ไม่หยุดใช้ปลายลิ้นสร้างความสุขให้ร่างสูง
ชีวอนขยับสะโพกตามการขยับขึ้นลงของคยูฮยอนอย่างพอใจก่อนจะลูบแผ่นหลังบอบบางที่ชื้นเหงื่ออย่างแสนรัก
สายตาคมมองเงาสะท้อนจากกระจกที่หัวเตียงพลางหรี่ตามองเงาที่สะท้อนช่องรักสีสดที่เปิดออกเพราะร่างเล็กแยกขาออก
“อื้อออออออออออออออออ” เนื้อเยื่อสีแดงจัดที่บอบบางกระตุกให้เห็นเนื่อง
ๆบ่งบอกถึงอารมณ์ว่าคั่งค้างอยู่มากเพียงใด จนชีวอนอดไม่ได้ที่จะเอื้อมตัวเพื่อสอดปลายนิ้วเข้าไปอีกครั้งและขยับเข้าออกจนของเหลวสีใสไหลออกมาเป็นทาง ขาเรียวที่คุกเข่าอยู่สั่นจนเห็นได้ชัดในขณะที่ช่องรักตอดรัดนิ้วชีวอนจนแทบขยับไม่ได้
น่ากินที่สุด..
ร่างสูงดึงคยูฮยอนให้ผละออกแล้วดันคยูฮยอนให้ลงไปนอนราบอย่างนุ่มนวลพลางแทรกตัวเข้าไปอยู่ในระหว่างขาของคยูฮยอน
ริมฝีปากร้อนประทับลงที่ขาสั่นระริกและไล่ต่ำลง ก่อนจะช้อนสะโพกกลมขึ้นและเลียไล่ต่ำลงไปหาช่องรักสีแดงจัดก่อนจะสอดปลายลิ้นลึกเข้าไป
“อ๊าาาา!!!!
อ้ะะ!! มะ.. อาาา”
คยูฮยอนครางเสียงสั่นและบิดกายเพราะความเสียวซ่านจนชีวอนต้องจับสะโพกกลมให้อยู่นิ่ง
ปลายลิ้นร้อนเข้าไปลึกเรื่อย ๆและขยับเข้าออกเป็นจังหวะจนร่างเล็ดเชิดหน้าขึ้นและบิดผ้าปูที่นอนจนยับยู่ยี่
“อะ.. อะ..... ล..เลิกแกล้ง
อื้ออๆ!! แฮ่ก.. ทำสักทีสิ!!”
“หืมม..”
ชีวอนละออกมาเมื่อได้ฟังประโยคที่น่าสนใจ
ก่อนจะขึ้นไปมองด้วยแววตาใสซื่อ
“เมื่อกี้คยูฮยอนว่าไงนะ
พี่ไม่ได้ยิน”
“ป..เปล่า แฮ่ก..”
“เหรอ.. แต่พี่ว่าพี่ได้ยินนะ”
“อ้ะ!! มะ..ไม่
ไม่ได้ อื้อออออ!!!”
คยูฮยอนละลักละล่ำปฏิเสธก่อนคำโกหกจะขาดหายในทันทีที่ชีวอนเล่นสนุกกับช่วงล่างเขาอีกครั้ง
ปลายนิ้วเรียวยาวสอดเข้าไปสัมผัสภายในจนร่างเล็กสมองขาวโพลน
และรู้สึกคล้ายจะเป็นลม
“ถ้านายไม่พูด พี่ก็ไม่รู้นะ”
คยูฮยอนหอบหายใจพร้อมกัดริมฝีปากกลั้นเสียงครางที่น่าอายเอาไว้
และมองดูชีวอนที่ทำหน้าใสซื่อทั้งที่กำลังเล่นกับร่างกายเขาจนแทบบ้า
“แฮ่ก.. อ้ะ!
บอกว่า.. ทำ..สักทีสิ! อ้ะๆๆ!”
ร่างเล็กจิกผ้าปูที่นอนจนแทบขาดและกัดปากจนขึ้นสีเลือด
ชีวอนหัวเราะในลำคอแล้วจูบไล่ขึ้นมาหาอย่างอารมณ์ดี
สองนิ้วดึงออกจากตัวคนรักอย่างแผ่วเบาและจ่อท่อนเนื้อร้อนไว้ที่ปากทาง
“จะให้ทำอะไรอ่ะครับ
พี่ไม่เข้าใจ”
ชีวอนกล่าวพลางจุมพิตและทิ้งร่องรอยไว้ตามผิวขาวเนียนที่ไม่ได้สัมผัสมานาน
ร่างเล็กเอื้อมมือไปคล้องที่ลำคอและเปิดซอกคอให้เขาเข้าหาอย่างเต็มใจในขณะที่ช่องทางรักเต้นตุบเพราะความต้องการจนแทบบ้า
“แบบนี้รึเปล่า?”
“อึกก!! อ๊าาาาาา
อ้ะ อ้ะ!!”
ร่างเล็กครางเสียงสั่นเมื่อชีวอนดันแก่นกายร้อนจัดเข้ามาทีเดียวจนสุดทันที
แล้วยกขาเรียวให้ขึ้นไปเกี่ยวไว้กับเอวเพื่อให้เปิดทางได้มากขึ้น
ช่องรักหดเกร็งรัดแน่นเมื่อถูกรุกรานก่อนที่จะยอมปล่อยให้สิ่งที่มารุกรานเคลื่อนที่เข้าออกตามต้องการ
“อื้อๆๆๆๆ!! ชีวอน...
อ้ะ ดีจัง อืมมมมมม!!”
ชีวอนกระแทกกายเข้ามาในจังหวะที่คยูฮยอนสวนสะโพกเข้าหา เล็บคมที่จิกเข้าเนื้อที่แผ่นหลังกว้างยิ่งเหมือนเทน้ำมันลงกองไฟรักของทั้งคู่
ร่างสูงดึงตัวออกมาจนเกือบสุดก่อนจะกระแทกเข้าไปตรงจุดกระสันทุกครั้งจนความรู้สึกเล่นแปลบขึ้นตามแนวกระดูกสันหลังไปหาสมอง
ชีวอนขยับตัวอย่างลำบากแต่มันก็ทำให้รู้อะไรบางอย่างที่เคยสงสัย
ร่างสูงก้มลงจูบหน้าผากมนที่ชื้นเหงื่อราวกับจะขอบใจ
..ขอบใจที่ไม่เคยมีอะไรกับใครนอกจากเขา
ริมฝีปากหยักกดจูบและดูดดึงที่ยอดอกแสนหวานอีกครั้งพร้อมกับใช้มือบีบเค้นอีกข้างที่ยังว่างอย่างถือสิทธิ์
โดยที่เจ้าของร่างไม่ได้รู้ตัวเลยสักนิดว่าแทบจะแอ่นกายเสิร์ฟให้ชีวอนถึงปาก มือเล็กสอดเข้าขยุ้มผมชีวอนแน่นและครางเสียงสั่น
ๆที่ข้างหู
“อาาาาาาา”
เพียงไม่กี่นาทีตัวคยูฮยอนกระตุกอย่างแรงและปลดปล่อยในที่สุด
ร่างเล็กรู้สึกหมดแรงราวกับเพิ่งใช้เวลาทั้งคืนไปกับชีวอน
ทั้งที่เพิ่งเสร็จไปเพียงครั้งแรก
ชีวอนผละออกก่อนจะช้อนร่างเล็กที่อ่อนปวกเปียกขึ้นมาให้หันหลังค้ำกับหัวเตียงและพรมจูบด้วยความหลงใหล
คยูฮยอนสะดุ้งเฮือกเมื่อชีวอนเริ่มต้นออกแรงขยับเข้ามา
การที่อยู่ในท่านี้ทำให้ชีวอนเข้ามาได้ลึกขึ้นกว่าเมื่อครู่จนไม่ยากเลยที่จะปลุกอารมณ์ที่ยังดับไม่ดีของร่างเล็กขึ้นมา
“อ้ะๆๆ!!
เร็วสิ.. ฮืออออ!!”
เสียงครางหวานดังลั่นในขณะที่เจ้าตัวเชิดใบหน้าขึ้น
ก่อนจะมองเห็นเงาในกระจกที่สะท้อนภาพคนข้างหลังให้เห็น
คยูฮยอนกัดริมฝีปากและบีบหัวเตียงไว้แน่นเมื่อถูกกระแทกเข้ามาลึกอีกครั้งก่อนจะลืมตามาสบสายตากับชีวอนผ่านกระจกอีกครั้ง
สายตาที่บอกกันว่ามันมีความรักอยู่มากเพียงใด..
“อ๊า อะ อึก.. ร.. รัก..อ้ะ!!
รักพี่นะ..อา..”
****************************
เสียงเตือนลิฟต์ดังขึ้นเป็นสัญญาณให้เดินออก
คยูฮยอนจึงถือโอกาสดึงมือที่ชีวอนดึงไปจับและซุกไว้ในเสื้อกันหนาวออกมา
แต่ชีวอนจับมือเขาไว้แน่นจนทำให้กลายเป็นเดินจูงมือกันแทน
คยูฮยอนหันไปมองค้อนร่างสูงสายตาขวางที่สุดเท่าที่จะผ่านแว่นกันแดดไปได้
แต่ชีวอนแค่ยักไหล่แล้วเดินมาควงแขนเขาเพื่อตรงไปยังห้องของผู้มีพระคุณ
“พี่เนี่ยน้า..” คยูฮยอนบ่น “ใส่แมสก็ใส่คลุมจมูกด้วยสิ
ไม่งั้นมันจะกันอะไรได้”
“ก็ไม่ได้จะใส่กันอะไรสักหน่อย”
“เอ้า แล้วใส่ทำไม”
ชีวอนไม่ตอบแต่เหล่ตามามองแมสของคยูฮยอนที่เหมือนกับของเขาด้วยแววตาเจ้าเล่ห์
ก่อนที่ทั้งคู่จะหยุดตรงหน้าประตูห้องคิมฮีชอล
ร่างเล็กเดินไปกดกริ่งก่อนจะยื่นหน้าไปแทบจะชนเลนส์กล้องที่ติดไว้
“ย๊าห์!!! โจวคยูฮยอน!!!!”
เสียงเจ้าของห้องดังขึ้นทันทีอย่างโกรธจัด
ก่อนที่ประตูจะเปิดออกมาทันที คยูฮยอนสะดุ้งถอยหลังแล้วหนีไปหลบหลังชีวอนตามความเคยชินและโผล่ใบหน้าลอดวงแขนร่างสูงมาคอยดูสถานการณ์
“ใครให้แกกินเหล้าฉันหมดวะ!!!!”
ฮีชอลโวยวายอย่างโกรธจัด “หยิบไปขวดเดียวก็กินขวดเดียวสิเว้ย ตกเลขเหรอ!!!”
ร่างสูงรีบเอาถุงของฝากมาโชว์และดันร่างพี่ชายให้ออกไปไกลตัว
ก่อนที่ฮีชอลจะหันมาสังเกตว่าคนที่มาด้วยคือใคร
“โอ้ะ..
นี่คืนดีกันแล้วใช่มั้ย”
ฮีชอลเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ยังโวยวายอยู่จากอารมณ์เมื่อครู่
มือเรียวจะว่าถุงจากชีวอนมาเปิดดูแต่ชีวอนก็ยกถุงหนีแล้วรีบชิงอธิบายก่อนที่ฮีชอลจะอ้าปากด่า
“ในนี้มีเหล้าที่แพงกว่าที่คยูฮยอนกินเมื่อคืนอยู่สามขวด
ไวน์จากฝรั่งเศสขวดนึงผมหยิบมาจากบ้าน แล้วก็อาหารกลางวัน”
“...”
“หมายความว่ามื้อนี้พวกเราจะกินข้าวกับพี่
เห็นแก่อยู่คนเดียวหรอกนะ กลัวแห้งตายคาหอ”
ฮีชอลคว้าถุงมาก่อนจะทำหน้าขัดใจใส่ชีวอนแล้วหันมามองร่างเล็กอย่างหมั่นเขี้ยว
“คืนดีกันก็ดีแล้ว
รู้มั้ยว่าฉันเบื่อแค่ไหนที่ชีวอนมันมาคอยถามว่าแกคบกับใครน่ะ.. เข้ามา!!”
ร่างสูงทำหน้าไม่รู้ร้อนกับพี่ชายเดินสะบัดนำเข้าห้องตัวเองไป
และทำเป็นไม่สนใจสายตาคำถามของคยูฮยอน
ก่อนจะดึงคนรักให้เข้ามาให้ห้องของฮยองนิมและจงใจปิดประตูแรง
ๆกวนประสาทเจ้าของห้องเป็นการเอาคืน
The
end